เรื่องเล่าข้างเตาฟืน

         ออกพรรษาฝนขาดเม็ดมาได้สักสองอาทิตย์แสงแดดร้อนอบอ้าว สภาพอากาศอย่างนี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับเห็ดตามฤดูกาลอย่างเห็ดโคนจะเริ่มแทงดอกออกหน่อขึ้นมา ชาวบ้านนอกจะมีเรื่องสนุกเตรียมตัวออกหาเห็ดโคนของอร่อยมาทำกับข้าวในครัว         เห็ดโคนมีหลากหลายชนิดทั้งเห็ดโคนกอ เห็นโคนกล้วย เห็ดโคนขาไก่ เห็ดโคนปลวก แล้วแต่ว่าจะขึ้นอยู่หรือในพื้นที่ใด  ชื่อเรียกไม่สำคัญเท่ากับเรารู้จักสภาพหรือรูปพรรณสัณฐานของเห็ดอย่างถ่องแท้ว่าเอามากินได้โดยปลอดภ้ยหรือเปล่าก็พอ เห็ดที่เป็นพิษกินเข้าไปอาจทำให้ถึงตายได้ เพราะฉะนั้นถ้าไม่แน่ใจมีวิธีง่ายๆในการทดสอบเบื้องต้นคือ เด็ดกลางต้นเห็ดตรงส่วนที่เป็นก้านดอกนั่นแหละถ้าเห็นเป็นสีขาวก็อุ่นใจได้แค่ครึ่งหนึ่งส่วนใหญ่เห็ดพิษจะมีสีดำคล้ำ ต้องลองเอามือบี้เห็ดนั้นให้ละเอียดถ้าผลออกมามียางสีดำติดนิ้วมือแสดงว่ามีพิษกินไม่ได้ ถ้ามีสีเหมือนเดิมน้ำเห็ดที่ออกมาไม่มีสีดำคล้ำก็เชื่อได้ว่ากินได้ แต่อย่างไรก็ตามถ้าไม่รู้จักอย่าเสี่ยงกินเด็ดขาดต้องรู้จักลักษณะที่แท้จริงของเห็ดแต่ละชนิดจะปลอดภัยแน่นอน           สองสามวันก่อนตอนเย็นยืนมองท้องฟ้าเป็นอุกาฟ้าเหลือง มีสีเหลื

       ตื่นเช้าขึ้นมาเดินเข้าครัวนึกอยากทำลูกชิ้นปลาติดบ้านไว้สำหรับทำกับข้าว วัตถุดิบก็หาได้อยู่แล้วออกไปที่ท่าเรือมองหาปลาทะเลที่ต้องการใช้ ลูกชิ้นปลาที่จะอร่อยต้องใช้เนื้อปลาสามชนิด คือ ปลาอินทรี ปลาดาบลาว และปลาเหลืองญี่ปุ่น กะน้ำหนักของจำนวนปลาแต่ละชนิดพอเท่าๆกัน ปลาอินทรีจะมีเนื้อฟูและเพิ่มความเหนียวให้ลูกชิ้น  ปลาดาบลาวช่วยให้ลูกชิ้นมีความนุ่มหนึบสู้เหงือกและฟัน ปลาเหลืองญี่ปุ่นจะทำให้ลูกชิ้นมีความหวานและนุ่มเช่นกัน ลำพังถ้าใช้ปลาอินทรีเพียงอย่างเดียวก็จะทำให้ลูกชิ้นปลาเหนียวแบบแข็งกระด้างแต่มีดีตรงเนื้อจะฟูเยอะเป็นการเพิ่มเนื้อลูกชิ้น เหมาะสำหรับนำไปทำห่อหมก หรือทอดมัน ใช้ปลาดาบลาวอย่างเดียวลูกชิ้นก็จะไม่เหนียว นวดกันจนแขนขึ้นกล้ามเป็นมัดๆ ก็ไม่เหนียวสักที มีแต่นุ่มๆ อย่างเดียว ปลาเหลืองญี่ปุ่นนั้นเนื้อหวานจนกินดิบๆเป็นซาซิมิได้ ถือเป็นปลาเกรดเอในการกินเป็นปลาดิบ แต่เมื่อเอาปลาทั้งสามอย่างมาผสมรวมกันก็จะทำให้เป็นลูกชิ้นปลาเกรดพรีเมี่ยม ที่ทั้งเหนียว ทั้งนุ่มหนึบ และหวานฉ่ำในปากได้อย่างลงตัว ปลาเหลืองญี่ปุ่นกับปลาดาบลาว ปลาอินทรี เนื้อปลาที่แล่และขูด